จังหวัดสุโขทัยเป็นพื้นที่ที่สำคัญในการผลิตใบยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ การผลิตส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอศรีสำโรง ซึ่งตำบลทับผึ้งมีจำนวนผู้
ปลูกยาสูบมากที่สุด ผู้วิจัยจึงสนใจพื้นที่นี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อวิเคราะห์ผลตอบแทนและต้นทุน ทางเศรษฐศาสตร์ของการปลูกยาสูบพันธ์ุ
เบอร์เลย์ในตำบลทับผึ้ง โดยผู้วิจัยเลือก 3 หมู่บ้าน มีจำนวนตัวอย่างรวม 53 ราย ผลการศึกษา พบว่า การปลูกยาสูบพันธ์ุเบอร์เลย์ในปีเพาะปลูก
2551/2552 เกษตรกรขาดทุนเฉลี่ยประมาณ 6,715.29 บาทต่อไร่ ต้นทุนที่สำคัญ ได้แก่ ค่าแรงงาน คิดเป็นร้อยละ 59.85 ซึ่งเป็นเงินสด
และไม่เป็นเงินสดร้อยละ 34.87 และ 65.13 ตามลำดับ นอกจากนี้เมื่อผู้วิจัยแบ่งกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ เกษตรกรที่มี
พื้นที่เพาะปลูกต่ำกว่า 10 ไร่ และตั้งแต่ 10 ไร่ขึ้นไป ผลการวิจัยก็ยังคงไม่แตกต่างจากเดิม นั่นคือ เกษตรกรยังคงขาดทุน เฉลี่ยประมาณ
8,326.33 และ 6,409.72 บาทตามลำดับ งานวิจัยนำไปสู่ข้อเสนอแนะในประเด็นการปรับลดพื้นที่ปลูกยาสูบ กล่าวคือ ถ้าเกษตรกรผู้ปลูก
ยาสูบตระหนักถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสแรงงาน ดังนั้นเกษตรกรควรปรับเปลี่ยนโครงสร้างจากพื้นที่เพาะปลูกยาสูบไปสู่พืชผักทดแทนยาสูบ
ต่อไปในระยะยาว
Sukhothai Province has been a vital area of burley tobacco production up to the present period. Futther, the amounts of output are
derived mainly from Srisumrong District. The numbers of farmers are also concentrated on Tubpeung Subdistrict. It enkindled me to
investigate the tobacco production in such area. The main purpose of my research was to analyze the return and economic cost of
burley tobacco production. According to the research methodology, the sample size was accounted for 53 farmers that drawn randomly
from 3 villages. The important results revealed that the net average return on burley tobacco production was approximately equal to
-6,715.29 baht per rai in the crop year of 2008/2009. Obviously, the crucial cost of production devoted to the labor input that was
accounted for 59.98%. Within this, the cash and non-cash cost was accounted for 34.87% and 65.13% respectively. Apart from this,
when the samples were separated into two groups: < 10 rais and 10 rais. The main results remained the same in the way of getting
loss of tobacco production. The net average return on production was approximately equal to -8,326.33 and -6,409.72 baht per rai
respectively. It will lead policy recommendation to the issue of tobacco planted area reduction, if the farmers realize the opportunity
cost of labor input. In the long run the farmer should therefore adjust the structure of cultivated area. Ultimately, the vegetable
production should be replcaed on the planted area of burley tobacco.