Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.swu.ac.th/jspui/handle/123456789/27935
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorนัทชาริน อาษาธง-
dc.date.accessioned2023-02-22T07:46:22Z-
dc.date.available2023-02-22T07:46:22Z-
dc.date.issued2564-
dc.identifier.urihttps://ir.swu.ac.th/jspui/handle/123456789/27935-
dc.languageth-
dc.publisherกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (สาขาฟิสิกส์) โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร(ฝ่ายมัธยม)-
dc.subjectวิจัยในชั้นเรียน-
dc.subjectผลสัมฤทธิ์-
dc.subjectเจตคติ-
dc.subjectความแปรปรวนพหุนาม-
dc.titleการวิเคราะห์ความแปรปรวนพหุนามสำหรับเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อวิชาฟิสิกส์ของนักเรียนที่เรียนวิชาฟิสิกส์โดยใช้นวัตกรรมสื่อปฏิบัติการทดลองเสมือนจริงและการสอนแบบปกติ-
dc.typeArticle-
dc.description.abstractthaiการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อวิชาฟิสิกส์ของ นักเรียนที่เรียนวิชาฟิสิกส์โดยใช้นวัตกรรมสื่อปฏิบัติการทดลองเสมือนจริงและการสอนแบบปกติ ประชากรที่ ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร(ฝ่ายมัธยม) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 3 ห้องเรียน ประกอบด้วยนักเรียนห้อง GHS จำนวน 38 คน ห้อง SGS จำนวน 29 คน และห้องวิทยาศาสตร์ จำนวน 43 คน รวม 110 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้สำหรับการวิจัย คือ นักเรียนที่กำลัง ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยวิธีการสอนโดยใช้นวัตกรรมสื่อปฏิบัติการทดลองเสมือนจริง จำนวน 1 ห้อง คือ ห้อง GHS มีจำนวน 28 คน (ตามความสมัครใจของนักเรียนในการเก็บผลการวิจัยระหว่าง เรียน) และนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยวิธีการสอนโดยใช้วิธีแบบปกติ จำนวน 1 ห้อง คือ ห้อง SGS มีจำนวน 29 คน โดยการสุ่มอย่างง่าย ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัย 18 คาบ เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยเรื่องคลื่นกลและเสียง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวัดเจตคติต่อวิชาฟิสิกส์ มีค่า ความเชื่อมั่นของแบบวัดทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 และแบบวัดผลสัมฤทธิ์วิชาฟิสิกส์ของนักเรียนชั้น ม.5 เรื่อง คลื่น กลและเสียง มีค่าความยากง่ายทั้งฉบับเท่ากับ 0.64 และค่าอำนาจจำแนกทั้งฉบับเท่ากับ 0.68 วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนพหุคูณทางเดียว (One-Way MANOVA) ซึ่งผลการวิเคราะห์ความ แปรปรวนตัวแปรพหุนามของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์และเจตคติทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ พบว่า อิทธิพลปฏิสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบวิธีการสอนที่ต่างกันส่งผลต่อเวคเตอร์ค่าเฉลี่ยของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาฟิสิกส์และเจตคติทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05-
Appears in Collections:DeSec-Journal Articles

Files in This Item:
File SizeFormat 
SPSM-Natcharin-A-2564.pdf677.94 kBPDFView/Open


Items in SWU repository are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.