Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.swu.ac.th/jspui/handle/123456789/22284
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.date.accessioned | 2022-06-27T08:14:27Z | - |
dc.date.available | 2022-06-27T08:14:27Z | - |
dc.date.issued | 2563 | - |
dc.identifier.uri | https://ir.swu.ac.th/jspui/handle/123456789/22284 | - |
dc.language | th | - |
dc.publisher | กรมทรัพย์สินทางปัญญา | - |
dc.subject | สิทธิบัตร | - |
dc.title | ชุดไพรเมอร์ (primer) และตัวตรวจจับสำเร็จรูป (DNA probe) วิธีการตรวจสารพันธุกรรม และ ชุดตรวจสารพันธุกรรมสำหรับตรวจหาเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria monocytogenes) ด้วยปฏิกิริยาการสังเคราะห์ดีเอ็นเอแบบห่วง หรือ แลมป์ (loop-mediated isothermal amplification หรือ LAMP) ผนวกกับแผ่นตรวจวัดแบบแถบสี (Dipstick) โดยใช้โดยใช้ยีนฟอสโฟไลเพส ซี (Phospholipase C หรือ plcB) ในการออกแบบชุดไพรเมอร์ (primer) และตัวตรวจจับสำเร็จรูป (DNA probe) | - |
dc.type | Patent | - |
dc.contributor.inventor | สมชาย สันติวัฒนกุล | - |
dc.contributor.inventor | สุพัตรา อารีกิจ | - |
dc.contributor.inventor | ทายาท ศรียาภัย | - |
dc.contributor.inventor | ธงชัย แก้วพินิจ | - |
dc.contributor.inventor | พิชาภัค สมยูรทรัพย์ | - |
dc.contributor.inventor | ศิริรัตน์ วชิรเลอพันธุ์ | - |
dc.contributor.assignee | มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ | - |
dc.description.abstractthai | การประดิษฐ์นี้เกี่ยวข้องกับชุดไพรเมอร์ (primer) และตัวตรวจจับสำเร็จรูป (DNA probe)สำหรับตรวจเชื้อลิสทีเรีย โมโนไชโตจิเนส (,Listeria monocytogenes) ด้วยปฏิกิริยาการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมด้วยอุณหภูมิระนาบเดียวจากการชักนำของไพรเมอร์ให้เกิดการสังเคราะห์ดีเอ็นเอแบบห่วงหรือ แลมป์ (loop mediated isothermal amplification หรือ LAMP) ผนวกกับแผ่นตรวจวัดแบบแถบสี(Dipstick) ซึ่งเริ่มจากการพัฒนาเทคนิคแลมปี หรือ LAMP โดยการออกแบบไพรเมอร์และตัวตรวจจับสำเร็จรูปสำหรับตรวจเชื้อลิสทีเรีย โมโนไชโตจิเนส (Listeria monocytogenes) 4 เส้น จากลำดับเบสในส่วนของยีนฟอสโฟไลเพส ซี หรือ Phospholipase C ที่จำเพาะต่อเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส(.Listeria monocytogenes) ซึ่งไพรเมอร์ตัวหนึ่งจะติดฉลากด้วยสารไบโอทิน (biotin) ในระบบนี้ดีเอ็นเอเป้าหมายจะถูกเพิ่มปริมาณภายใต้อุณหภูมิ 63 องศาเซลเซียส ร่วมกับการเติมตัวตรวจจับ (probe) ที่ออกแบบอย่างจำเพาะต่อผลผลิตจากแลมป์ หรือ LAMP เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที ในกล่องให้ความร้อน (heating block) ต่อจากนั้นดูดสารละลายที่ได้นี้ใส่ลงไปในหลอดที่มีสารละลายบัฟเฟอร์ แล้วจุ่มแผ่นลิปสติก หรือ Dipstick ลงไปในสารละลาย รอเวลา 5-10 นาที แล้วอ่านผลการตรวจ ------------ ------17/07/2561------(OCR) หน้าที่ 1 ของจำนวน 1 หน้า บทสรุปการประดิษฐ์ การประดิษฐ์นี้เกี่ยวข้องกับชุดไพรเมอร์ (primer) และตัวตรวจจับสำเร็จรูป (DNA probe)สำหรับตรวจเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria monocytogenes) ด้วยปฏิกิริยาการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมด้วยอุณหภูมิระนาบเดียวจากการชักนำของไพรเมอร์ให้เกิดการสังเคราะห์ดีเอ็นเอแบบห่วงหรือ แลมป์ (loop mediated isothermal amplification หรือ LAMP) ผนวกกับแผ่นตรวจวัดแบบแถบสี(Dipstick) ซึ่งเริ่มจากการพัฒนาเทคนิคแลมป์ หรือ LAMP โดยการออกแบบไพรเมอร์และตัวตรวจจับสำเร็จรูปสำหรับตรวจเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria monocytogenes) 4 เส้น จากลำดับเบสในส่วนของยีนฟอสโฟไลเพส ซี หรือ Phospholipase C ที่จำเพาะต่อเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส(Listeria monocytogenes) ซึ่งไพรเมอร์ตัวหนึ่งจะติดฉลากด้วยสารไบโอทิน (biotin) ในระบบนี้ดีเอ็นเอเป้าหมายจะถูกเพิ่มปริมาณภายใต้อุณหภูมิ 63 องศาเซลเซียส ร่วมกับการเดิมตัวตรวจจับ (probe) ที่ออกแบบอย่างจำเพาะต่อผลผลิตจากแลมป์ หรือ LAMP เป็นเวลาในช่วง 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง 30 นาทีในกล่องให้ความร้อน (heating block) ต่อจากนั้นดูดสารละลายที่ได้นี้ใส่ลงไปในหลอดที่มีสารละลายบัฟเฟอร์ แล้วจุ่มแผ่นดิปสติก หรือ Dipstick ลงไปในสารละลาย รอเวลาในช่วง 5 ถึง 10 นาที แล้วอ่านผลการตรวจ ------------ ------20/10/2560------(OCR) หน้าที่ 1 ของจำนวน 1 หน้า บทสรุปการประดิษฐ์ การประดิษฐ์นี้เกี่ยวข้องกับชุดไพรเมอร์ (primer) และตัวตรวจจับสำเร็จรูป (DNA probe) สำหรับตรวจเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria monocytogenes) ด้วยปฏิกิริยาการเพิ่มปริมาณสาร พันธุกรรมด้วยอุณหภูมิระนาบเดียวจากการชักนำของไพรเมอร์ให้เกิดการสังเคราะห์ดีเอ็นเอแบบห่วง หรือ แลมป์ (loop mediated isothermal amplification หรือ LAMP) ผนวกกับแผ่นตรวจวัดแบบแถบสี (Dipstick) ซึ่งเริ่มจากการพัฒนาเทคนิคแลมป์ หรือ LAMP โดยการออกแบบไพรเมอร์และตัวตรวจจับ สำเร็จรูปสำหรับตรวจเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria monocytogenes) 4 เส้น จากลำดับเบส ในส่วนของยีนฟอสโฟไลเพส ซี หรือ Phospholipase C ที่จำเพาะต่อเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria monocytogenes) ซึ่งไพรเมอร์ตัวหนึ่งจะติดฉลากด้วยสารไบโอทิน (biotin) ในระบบนี้ดีเอ็นเอ เป้าหมายจะถูกเพิ่มปริมาณภายใต้อุณหภูมิ 63 องศาเซลเซียส ร่วมกับการเติมตัวตรวจจับ (probe) ที่ ออกแบบอย่างจำเพาะต่อผลผลิตจากแลมป์ หรือ LAMP เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ในกล่อง ให้ความร้อน (heating block) ต่อจากนั้นดูดสารละลายที่ได้นี้ใส่ลงไปในหลอดที่มีสารละลายบัฟเฟอร์ แล้วจุ่มแผ่นดิปสติก หรือ Dipstick ลงไปในสารละลาย รอเวลาประมาณ 5-10 นาที แล้วอ่านผลการ ตรวจ ------------ การประดิษฐ์นี้เกี่ยวข้องกับชุดไพรเมอร์ (primer) และตัวตรวจจับสำเร็จรูป (DNA probe) สำหรับตรวจเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria monocytogenes) ด้วยปฏิกิริยาการเพิ่มปริมาณสาร พันธุกรรมด้วยอุณหภูมิระนาบเดียวจากการชักนำของไพรเมอร์ให้เกิดการสังเคราะห์ดีเอ็นเอแบบห่วง หรือ แลมป์ (loop mediated isothermal amplification หรือ LAMP) ผนวกกับแผ่นตรวจวัดแบบแถบสี (Dipstick) ซึ่งเริ่มจากการพัฒนาเทคนิคแลมป์ หรือ LAMP โดยการออกแบบไพรเมอร์และตัวตรวจจับ สำเร็จรูปสำหรับตรวจเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria monocytogenes) 4 เส้น จากลำดับเบส ในส่วนของยีนฟอสโฟไลเพส ซี หรือ Phospholipase C ที่จำเพาะต่อเชื้อลิสทีเนีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria monocytogenes) ซึ่งไพรเมอร์ตัวหนึ่งจะติดฉลากด้วยสารไบโอทิน (biotin) ในระบบนี้ดีเอ็นเอ เป้าหมายจะถูกเพิ่มปริมาณภายใต้อุฯหภูมิประมาณ 63 องศาเซลเซียส ร่วมกับการเติมตัวตรวจจับ (probe) ที่ออกแบบอย่างจำเพาะต่อผลผลิตจากแลมป์ หรือ LAMP เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ในกล่องให้ความร้อน (heating block) ต่อจากนั้นดูดสารละลายที่ได้นี้ใส่ลงไปในหลอดที่มีสารละลาย บัฟเฟอร์ แล้วจุ่มแแผ่นดิปสติก หรือ Dipstick ลงไปในสารละลาย รอเวลาประมาณ 5-10 นาที แล้วอ่าน ผลการตรวจ | - |
Appears in Collections: | Patents |
Files in This Item:
File | Size | Format | |
---|---|---|---|
patent1601004756.pdf | 1.78 MB | View/Open |
Items in SWU repository are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.