การประเมินสภาพการจราจรจากข้อมูลสื่อสังคม

อสมาภรณ์ สิทธิ

dc.contributor.author	อสมาภรณ์ สิทธิ
dc.date.accessioned	2023-06-13T09:48:47Z
dc.date.available	2023-06-13T09:48:47Z
dc.date.issued	2562
dc.identifier.uri	https://ir.swu.ac.th/jspui/handle/123456789/28469
dc.description	รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดับชาติ SMARTS ครั้งที่ 9
dc.description.abstract	This research aims to analyze the estimation of traffic condition from the geo-tagged information in Bangkok, Thailand using data mining technique. The significant of the research are implementing VGI information with for transportation application, and using natural languege processing method to mine traffic events. The check-in information is utilized using database management system, text mining and pattern analysis in order to refer traffic events which can be related connectivity, accessibility, infrastructure, internet network services provider, transportation and other important facilities. The contribution of this research could be the baseline to shows the relationship with user behaviour regarding transportation tracking using geographical of social media technology.
dc.subject	การจราจร
dc.subject	เหมืองข้อมูล
dc.subject	สื่อสังคม
dc.subject	Traffic conditions
dc.subject	Social sensing
dc.subject	Text mining
dc.title	การประเมินสภาพการจราจรจากข้อมูลสื่อสังคม
dc.title.alternative	Traffic Condition Estimation from Social-based Data
dc.type	Article
dc.description.abstractthai	งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการใช้เทคโนโลยีการรับรู้ทางสังคมที่มีความเชื่อมโยงกับการจราจรบนท้องถนนโดยอาศัยเทคนิคการวิเคราะห์เหมืองข้อความที่เกี่ยวข้องกับการจราจรจากผู้ใช้เครือข่ายสังคม (social network) ในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศดังกล่าวสามารถนำไปใช้สำหรับประเมินการจราจรเชิงพื้นที่ของข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับระบบการคมนาคมขนส่งในปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนน ได้แก่ ความสามารถในการเข้าถึง โครงสร้างพื้นฐาน การให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ระบบคมนาคมขนส่ง และการบริการที่มีความสำคัญ เพื่อเป็นแนวทางพัฒนา แก้ไข และป้องกัน เพื่อลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถขับขี่และสัญจรในพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย